แรงดันแบตเตอรี่ 24V กับ 48V มีข้อดี ข้อด้อยต่างกันอย่างไร ??

⚡️ 1. แรงดันไฟฟ้า (Voltage)
24V แรงดันต่ำกว่า / 48V แรงดันสูงกว่า
กระแสที่ใช้เมื่อโหลดเท่ากัน
24V สูง ต้องใช้สายไฟเส้นใหญ่กว่า หรือความร้อนในสายจะสูงกว่า
48V ต่ำ ไม่ต้องใช้สายไฟเส้นใหญ่ ความร้อนในสายไม่สูง
สรุป: 48V ใช้กระแสน้อยกว่า ทำให้ระบบมีประสิทธิภาพดีกว่า
⚙️ 2. ประสิทธิภาพของระบบ (Efficiency)
24V จะสูญเสียพลังงานมากกว่าในสายไฟ
48V จะสูญเสียพลังงานน้อยกว่า (เนื่องจากกระแสน้อย → สายไฟไม่ร้อนมาก)
→ ถ้าเป็นระบบขนาดใหญ่ เช่น รถกวาดไฟฟ้า, รถกอล์ฟ, ระบบโซลาร์เซลล์ 48V จะได้เปรียบกว่า
3. การออกแบบระบบและอุปกรณ์
ราคาอุปกรณ์ 24V ถูกกว่า / 48V แพงกว่าเล็กน้อย
คอนโทรลเลอร์, มอเตอร์ 24V เหมาะกับงานขนาดเล็กกว่า / 48V เหมาะกับงานที่ต้องใช้แรงขับสูงกว่า
→ ถ้างานเล็ก ๆ เช่น รถไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับใช้ภายในอาคาร 24V ก็เพียงพอ
→ ถ้างานหนัก ต้องการแรงขับสูง หรือระยะทางไกล เช่นรถกวาดถนน 48V เหมาะกว่า
4. ความร้อนและอายุการใช้งาน
24V: ระบบร้อนกว่า → ต้องระบายความร้อนดี ๆ
48V: ระบบร้อนน้อยกว่า → อายุการใช้งานยาวกว่า
5. ค่าใช้จ่าย
ต้นทุนเริ่มต้น 24V ถูกกว่า / 48V แพงกว่า
ต้นทุนการเดินสาย 24V แพงกว่า (เพราะใช้สายใหญ่กว่า) / 48V ถูกกว่า (สายเล็กกว่า)
6. เปรียบเทียบข้อดี–ข้อเสีย: แบตเตอรี่ 24V vs 48V
ข้อดี
แบตเตอรี่ 24V แรงดันต่ำ อุปกรณ์และคอนโทรลเลอร์หาง่าย ราคาถูกกว่า
ซ่อมบำรุงง่าย เหมาะกับระบบขนาดเล็ก เช่น รถไฟฟ้าสำหรับใช้ภายใน หุ่นยนต์ ระบบสำรองไฟ
แบตเตอรี่ 48V ประสิทธิภาพสูงกว่า สูญเสียพลังงานน้อยกว่า ใช้กระแสน้อย → ทำให้สายไฟ
ไม่ร้อนและเล็กกว่า ให้แรงขับและระยะทางไกลกว่า เหมาะกับระบบขนาดใหญ่และงานหนัก เช่นรถไฟฟ้าสำหรับใช้ภายนอก
ข้อเสีย
แบตเตอรี่ 24V ใช้กระแสสูงกว่า → สายไฟใหญ่และร้อนง่าย สูญเสียพลังงานมากกว่า ไม่เหมาะ
กับระบบที่ต้องการกำลังสูงหรือใช้งานต่อเนื่อง
แบตเตอรี่ 48V ต้นทุนสูงกว่า (อุปกรณ์ต้องรองรับ 48V) ระบบควบคุมซับซ้อนกว่าเล็กน้อย
เหมาะกับระบบที่ต้องการกำลังสูงหรือใช้งานต่อเนื่อง
———-

